วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2561

พระอนุรุทธะ #3

ด้วยพระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้มีญาณหยั่งรู้กาลเบื้องหน้าทราบว่าภายหลังการใส่บาตรของอันนภาระแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ท่านจึงรีรออยู่ในป่าละแวกนั้น มิได้เหาะกลับไปยังทีพำนักเดิมของท่านตามปกติวิสัย

อันนภาระเดินตามมาท้นพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงได้เรียนถามท่านไปว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เศรษฐีผู้เป็นนายของข้าพระองค์มีความปรารถนาบุญส่วนหนึ่งที่ข้าพระพุทธเจ้าทำโดยการใส่บาตรแก่พระองค์ไปเมื่อสักครู่ ข้าพระองค์สามารถแบ่งบุญส่วนหนึ่งให้แก่ท่านเศรษฐีได้หรือไม่พระพุทธเจ้าข้า"

พระปัจเจกพุทธเจ้าตรัสว่า "ดูก่อนอันนภาระ ท่านเคยเห็นแสงจากไต้หรือตะเกียงใช่หรือไม่ เมื่อมีคนเอาคบมาจุดต่อ ๆ กันไป คนแล้วคนเล่า ไต้/ตะเกียงนั้นยังสว่างดีอยู่หรือไม่" อันนภาระตอบไปว่า ยังสว่างพระพุทธเจ้าข้า พระปัจเจกพุทธเจ้าจึงตรัสต่อว่า บุญที่ท่านทำแก่เราในวันนี้ก็เช่นกัน ดุจแสงสว่างจากไต้/ตะเกียงที่โชติช่วง แม้จะมีคนมาขอแบ่งบุญ หรือ ท่านจะยกบุญส่วนนี้ให้กับผู้ใดก็ตาม บุญนั้นก็ยังคงอยู่กับท่านเช่นเดิมมิได้ลดลงเลย หากแต่บุญส่วนหนึ่งที่ท่านแบ่งให้กับผู้อื่นต่อ ๆ ไปนั้น ผู้ที่รับบุญนั้นจากท่านก็จะไปทำบุญทำกุศลต่อ ทำความสว่างกับจิตใจ ทำความดีงามแก่ตนเองและแก่ผู้อื่นไม่จบสิ้นเช่นกัน จึงเสมือนแสงสว่างที่ค่อย ๆ สว่าง แผ่กว้างออกไปนั่นเอง"

ได้ยินดังนั้น อันนภาระผู้มีความจงรักภักดีต่อนาย จึงรีบกลับไปบอกท่านเศรษฐีด้วยความยินดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น