วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

HR ชนชั้นทางสังคมในสถาบันอุดมศึกษาไทย

ในชั้นเรียนสอนเรื่อง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ ศาสตร์ของ รปศ. จะไปเกี่ยวพันกับชนชั้นทางสังคมเช่นกัน เนื่องจากมีรัฐศาสตร์เป็นศาสตร์แม่ ที่ผ่านมาเมื่อพูดถึงประเด็นนี้ นักวิชาการมักเพ่งเล็งไปที่การแบ่งชนชั้นวรรณะในอินเดีย จึงบอกกับนศ.ไปว่า อ.ขอยกตัวอย่างของจริง ใกล้ตัวของพวกเธอดีกว่า เข้าใจง่ายดี เช่นการแบ่งประเภทของบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา ก็อาจสะท้อนถึงการแบ่งชนชั้นทางสังคมได้ระดับหนึ่ง ดังนี้
♧ผู้ปกครอง (ผู้บริหาร) กับ ผู้ใต้ปกครอง (บุคลากร)
♧ข้าราชการ/ พนักงานมหาวิทยาลัย (เงินรายได้/งบแผ่นดิน) พนักงานราชการ/ ลูกจ้าง (ประจำ/ชั่วคราว)
♧บุคลากรสายวิชาการ กับ บุคลากรสายสนับสนุน
แน่นอนว่าค่าจ้าง ค่าตอบแทน รายได้ และสวัสดิการของแต่ละประเภทย่อมต่างกัน

ข้อสังเกต
นศ.คนหนึ่งจึงถามว่า...ทำไมจึงไม่มีประเภทเดียวเพื่อความเท่าเทียม (equality) และเป็นธรรม (equity) #ชนชั้นทางสังคม

ทารกน้อยมหาโจร

เสบียงบุญ ตอน "ทารกน้อยมหาโจร"

จากหนังสือนิทานสร้างบารมีพระเจ้า 30 ชาติ
หน้า 114 ความว่า...
สมัยพระเจ้าวิเทหราชเสวยราชสมบัติครั้งนั้นสมเด็จพระสมนโคดมพุทธเจ้าเสวยชาติเป็น"มโหสถบัณฑิต"ผู้มีปัญญาเป็นเลิศพระเจ้าวิเทหราชโปรดให้ทหารไปเชิญมโหสถบัณฑิตมารับราชการเป็น1ใน4ที่ปรึกษาคนสำคัญของพระองค์

ครั้นมโหสถบัณฑิตเข้ามาในพระราชวังกษัตริย์ก็ได้ทดสอบปัญญาของเขาบางคำถามก็เคยสอบถามเทวดามาแล้วอาทิ"บุคคลใดประหารกายผู้อื่นด้วยมือด้วยเท้าและประหารปากผู้อื่นด้วยมือ...คนผู้นั้นกลับเป็นที่รักเชิดชูของผู้ถูกประหารนั้น...ข้อนี้ได้แก่ใครกัน?"

มโหสถบัณฑิตกราบทูลพระราชาว่า"ขอเดชะ เมื่อใดลูกน้อยนอนบนตักมารดา...ร่าเริง...สรวลเส...เล่นประหารมารดา...เมื่อนั้นมารดาก็ทำตะคอกลูกน้อยว่า...เจ้าอันธพาล...เจ้ามหาโจร...ตีแม่ทำไม?...พร้อมกันนั้นก็สวมกอดบุตรน้อยแนบอกให้ดื่มนม...ลูกน้อยนั้นแหละเป็นที่รักของมารดาผู้ถูกประหารเช่นนั้น"

ข้อคิดพระมหาชนก ฉบับการ์ตูน โดย ประทุมทิพย์ ทองเจริญ

ดูการ์ตูนพระมหาชนกช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ได้ข้อคิดว่า...
"ความรู้" เป็นสิ่งสำคัญที่จะนำความเจริญและความสุขมาให้กับผู้คน "ความไม่รู้" นำมาซึ่งความเสียหายมากมาย มากบ้าง น้อยบ้าง กระทบถึงกันหมด เช่น ช่วงท้ายของเรื่องที่พระมหาชนกเสวยผลมะม่วงแล้วประชาชนอยากกินบ้าง แต่ไม่รู้วิธีการเก็บผลของมันที่ถูกวิธีจึงได้ช่วยกันโค่นต้นมะม่วงลงมาแล้วเก็บผลของมันกินจนเกลี้ยง โดยหารู้ไม่ว่าทำแบบนั้นจะได้กินเพียงครั้งเดียว

พระมหาชนกทราบความจึงให้ฟื้นฟูต้นมะม่วงขึ้นใหม่ ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ต่อตา ปักชำ ทาบกิ่ง สารพัดวิธี แล้วก็ทำให้ต้นที่ไม่มีผลมะม่วงมีผลด้วย แล้วท่านก็นึกถึงคำพูดของนางมณีเมขลาที่ทูลขอจากพระองค์ขณะเพียรพยายามว่ายน้ำข้ามมหาสมุทร 7 วัน 7 คืน เพื่อไปเมืองมิถิลา นางทูลขอให้ตั้งมหาวิชชาลัยเพื่อสอนศิลปวิทยาการให้ความรู้แก่ประชาชนได้เลี้ยงชีพและดำรงชีวิตอย่างปกติสุข เมื่อพระมหาชนกทำตาม ประชาชนในปกครองของพระองค์อยู่ดีมีสุข จึงบังเกิดบรมสุขแก่พระองค์สืบไป

นอกจากนี้ ยังมีธรรมะจากต้นมะม่วงที่ไม่มีผล ซึ่งพระมหาชนกทรงตระหนักถึงสัจธรรมว่า...ต้นมะม่วงที่ไม่มีผลยังยืนต้นอยู่ได้ โดยไม่มีใครทำอันตรายเพราะมันไม่มีผลนั่นเอง จึงไม่มีใครสนใจ ต่างจากต้นมะม่วงที่มีผลหอมหวานสุกเต็มต้น ซึ่งเป็นที่ล่อตาล่อใจของมดแมลง สัตว์และคนที่หวังที่จะลิ้มรสชาติของมัน #ผลมะม่วงจึงเสมือนทรัพย์  ผู้ที่ต้องการความสงบในทางธรรมไม่ปรารถนาที่จะวุ่นวายในทางโลกจึงพึงตัด 3 สิ่ง คือ ลูก สามี/ภรรยา และทรัพย์ ซึ่งถือเป็นบ่วงสำคัญยากที่จะตัดขาดออกจากสัตว์โลก

HR. Thailand Today

เมื่อ "เงินเดือน" กับ "ค่าครองชีพ" สวนทางกัน คำว่า "เงินออม" และคุณภาพชีวิตที่ดีจึงอาจเป็นเพียงความฝันของหนุ่มสาววัยทำงานยุคนี้ รัฐบาลควรปรับฐานเงินเดือนตามความเป็นจริงและควบคุมราคาสินค้ามิให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนแซงหน้าเงินเดือน #คำนวณเฉพาะคนโสด ถ้ามีครอบครัวแต่งงานมีลูกค่าใช้จ่ายอื่น ๆ คงมากกว่านี้
วานนี้ ในห้องเรียนวิเคราะห์เงินเดือนและค่าครองชีพ ในหัวข้อ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ ได้ข้อมูลเชิงประจักษ์ ดังนี้
> เงินเดือน ป.ตรี จบใหม่ 15,000 บาท
> ค่าใช้จ่ายรายเดือน...25,000 บาท
**********************************
#ค่าห้องพักรายเดือน = 3500-5000 บ.
#ค่าน้ำ+ค่าไฟ = 1000-1500 บ.
#ค่าโทรศัพท์ = 500-1000 บ.
#ค่าอินเตอร์เน็ต = 500-800 บ.
#ค่ากิน = 5000-6000 บ.
#ค่าชุดทำงาน 1 ชุด = 1500-2000
#ค่าสันทนาการกับเพื่อน = 1500 บ.
#ค่าน้ำมันรถ (มอเตอร์ไซต์/รถยนต์) = 500-2000
# ของใช้ส่วนตัว /เครื่องสำอางค์ = 2,000-5,000 บ
#ค่าภาษีสังคม (ซอง) =500-1500 บ.

ผลกระทบ..
เงินเดือนในระบบราชการที่น้อยกว่าเอกชน 2 เท่า ส่งผลต่อความเสี่ยงการทุจริตคอรัปชั่น นายลีกวนยู อดีตนายกฯ คนแรกของสิงคโปร์จึงปรับฐานเงินเดือนในระบบราชการให้เท่ากับเอกชน รวมถึงมาตรการอื่น ๆ รองรับ

สิ่งที่กระทบอีกอย่าง คือ เมื่อรายได้ไม่พอ คนทำงานจึงหาอาชีพเสริม หลายคนต้องทำงานเสาร์-อาทิตย์ ยอมแลกวันหยุดกับรายได้ที่จะมาจุนเจือครอบครัว ความอบอุ่นและกิจกรรมของครอบครัวจึงขาดหายไป

น้อง ๆ ที่รู้จักกัน เพิ่งจบใหม่ บอกว่าเขารายได้ไม่พอจ่าย ต้องหาอาชีพเสริม ขายโน้น นี้ นั้น หลายทาง ...ทำช่วงกลางคืน แล้วก็วันหยุด ...ฟังแล้วสะเทือนใจ...นึกถึงหนูที่ต้องวิ่งบนสายพานตลอดเวลา

Thailand 4.0 ตอน อยู่ยากในสังคมออนไลน์

การสื่อสาร...เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า ความลับจึงไม่มีในโลกอีกต่อไป...สนทนากับลูกศิษย์ในชั้นเรียนพบว่า...โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่เป็น Smart phone หน้าจอใหญ่ใช้งานได้ทุกฟังชั่น รวมถึงการโทรคุยกัน ด้วยรูปลักษณ์ที่ใหญ่อาจทำให้ไม่สะดวกในการหยิบขึ้นมาแนบกับหูขณะสนทนา หลายคนจึงเลือกที่จะเปิดลำโพง...แน่นอนว่าคู่สนทนาปลายสายมิอาจล่วงรู้ได้เลยว่าคำพูดหรือข้อความที่เขาแสดงความเห็นออกไปนั้น ได้เผยแพร่เสียงสดสู่สาธารณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากคุยเรื่องความลับ/ความมั่นคง ทั้งความมั่นคงของตนเองและความมั่นคงของชาติ ....ย่อมไม่เป็นความลับอีกต่อไป บางกรณีก็มีการแอบบันทึกเสียงขณะสนทนา (โอ้ว...อะไรจะซับซ้อนปานนั้น แต่เคยมีในรายการที่จับผิดคนบางประเภท)

อีกกรณี...การสนทนาทาง inbox หรือ ไลน์ ในโปรแกรมที่ลงในเครื่อง pc ที่ใช้งานร่วมกับผู้อื่น เช่น ในสำนักงาน ที่คนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้คอมฯ ที่โต๊ะได้ทุกเมื่อ หากสนทนาผ่าน app ที่ว่าข้อความเด้งขึ้นมา ปรากฏหราบนหน้าจอ แต่เป้าหมายกลับมิใช่คนที่เราต้องการสนทนาด้วย (เป็นใครก็มิรู้) บางทีอาจปลอมตัวสนทนากับเราเพื่อล้วงความลับระดับชาติ ระดับโลกก็มี จึงมีกรณีไลน์ของดารา และบุคคลสำคัญ หลุดออกมาสู่สาธารณะ อันนี้ยังไม่นับไลน์ /Facebook/email ปลอมนะคะ