ในชั้นเรียนสอนเรื่อง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ ศาสตร์ของ รปศ. จะไปเกี่ยวพันกับชนชั้นทางสังคมเช่นกัน เนื่องจากมีรัฐศาสตร์เป็นศาสตร์แม่ ที่ผ่านมาเมื่อพูดถึงประเด็นนี้ นักวิชาการมักเพ่งเล็งไปที่การแบ่งชนชั้นวรรณะในอินเดีย จึงบอกกับนศ.ไปว่า อ.ขอยกตัวอย่างของจริง ใกล้ตัวของพวกเธอดีกว่า เข้าใจง่ายดี เช่นการแบ่งประเภทของบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา ก็อาจสะท้อนถึงการแบ่งชนชั้นทางสังคมได้ระดับหนึ่ง ดังนี้
♧ผู้ปกครอง (ผู้บริหาร) กับ ผู้ใต้ปกครอง (บุคลากร)
♧ข้าราชการ/ พนักงานมหาวิทยาลัย (เงินรายได้/งบแผ่นดิน) พนักงานราชการ/ ลูกจ้าง (ประจำ/ชั่วคราว)
♧บุคลากรสายวิชาการ กับ บุคลากรสายสนับสนุน
แน่นอนว่าค่าจ้าง ค่าตอบแทน รายได้ และสวัสดิการของแต่ละประเภทย่อมต่างกัน
ข้อสังเกต
นศ.คนหนึ่งจึงถามว่า...ทำไมจึงไม่มีประเภทเดียวเพื่อความเท่าเทียม (equality) และเป็นธรรม (equity) #ชนชั้นทางสังคม
วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
ทารกน้อยมหาโจร
เสบียงบุญ ตอน "ทารกน้อยมหาโจร"
จากหนังสือนิทานสร้างบารมีพระเจ้า 30 ชาติ
หน้า 114 ความว่า...
สมัยพระเจ้าวิเทหราชเสวยราชสมบัติครั้งนั้นสมเด็จพระสมนโคดมพุทธเจ้าเสวยชาติเป็น"มโหสถบัณฑิต"ผู้มีปัญญาเป็นเลิศพระเจ้าวิเทหราชโปรดให้ทหารไปเชิญมโหสถบัณฑิตมารับราชการเป็น1ใน4ที่ปรึกษาคนสำคัญของพระองค์
ครั้นมโหสถบัณฑิตเข้ามาในพระราชวังกษัตริย์ก็ได้ทดสอบปัญญาของเขาบางคำถามก็เคยสอบถามเทวดามาแล้วอาทิ"บุคคลใดประหารกายผู้อื่นด้วยมือด้วยเท้าและประหารปากผู้อื่นด้วยมือ...คนผู้นั้นกลับเป็นที่รักเชิดชูของผู้ถูกประหารนั้น...ข้อนี้ได้แก่ใครกัน?"
มโหสถบัณฑิตกราบทูลพระราชาว่า"ขอเดชะ เมื่อใดลูกน้อยนอนบนตักมารดา...ร่าเริง...สรวลเส...เล่นประหารมารดา...เมื่อนั้นมารดาก็ทำตะคอกลูกน้อยว่า...เจ้าอันธพาล...เจ้ามหาโจร...ตีแม่ทำไม?...พร้อมกันนั้นก็สวมกอดบุตรน้อยแนบอกให้ดื่มนม...ลูกน้อยนั้นแหละเป็นที่รักของมารดาผู้ถูกประหารเช่นนั้น"
จากหนังสือนิทานสร้างบารมีพระเจ้า 30 ชาติ
หน้า 114 ความว่า...
สมัยพระเจ้าวิเทหราชเสวยราชสมบัติครั้งนั้นสมเด็จพระสมนโคดมพุทธเจ้าเสวยชาติเป็น"มโหสถบัณฑิต"ผู้มีปัญญาเป็นเลิศพระเจ้าวิเทหราชโปรดให้ทหารไปเชิญมโหสถบัณฑิตมารับราชการเป็น1ใน4ที่ปรึกษาคนสำคัญของพระองค์
ครั้นมโหสถบัณฑิตเข้ามาในพระราชวังกษัตริย์ก็ได้ทดสอบปัญญาของเขาบางคำถามก็เคยสอบถามเทวดามาแล้วอาทิ"บุคคลใดประหารกายผู้อื่นด้วยมือด้วยเท้าและประหารปากผู้อื่นด้วยมือ...คนผู้นั้นกลับเป็นที่รักเชิดชูของผู้ถูกประหารนั้น...ข้อนี้ได้แก่ใครกัน?"
มโหสถบัณฑิตกราบทูลพระราชาว่า"ขอเดชะ เมื่อใดลูกน้อยนอนบนตักมารดา...ร่าเริง...สรวลเส...เล่นประหารมารดา...เมื่อนั้นมารดาก็ทำตะคอกลูกน้อยว่า...เจ้าอันธพาล...เจ้ามหาโจร...ตีแม่ทำไม?...พร้อมกันนั้นก็สวมกอดบุตรน้อยแนบอกให้ดื่มนม...ลูกน้อยนั้นแหละเป็นที่รักของมารดาผู้ถูกประหารเช่นนั้น"
ข้อคิดพระมหาชนก ฉบับการ์ตูน โดย ประทุมทิพย์ ทองเจริญ
ดูการ์ตูนพระมหาชนกช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ได้ข้อคิดว่า...
"ความรู้" เป็นสิ่งสำคัญที่จะนำความเจริญและความสุขมาให้กับผู้คน "ความไม่รู้" นำมาซึ่งความเสียหายมากมาย มากบ้าง น้อยบ้าง กระทบถึงกันหมด เช่น ช่วงท้ายของเรื่องที่พระมหาชนกเสวยผลมะม่วงแล้วประชาชนอยากกินบ้าง แต่ไม่รู้วิธีการเก็บผลของมันที่ถูกวิธีจึงได้ช่วยกันโค่นต้นมะม่วงลงมาแล้วเก็บผลของมันกินจนเกลี้ยง โดยหารู้ไม่ว่าทำแบบนั้นจะได้กินเพียงครั้งเดียว
พระมหาชนกทราบความจึงให้ฟื้นฟูต้นมะม่วงขึ้นใหม่ ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ต่อตา ปักชำ ทาบกิ่ง สารพัดวิธี แล้วก็ทำให้ต้นที่ไม่มีผลมะม่วงมีผลด้วย แล้วท่านก็นึกถึงคำพูดของนางมณีเมขลาที่ทูลขอจากพระองค์ขณะเพียรพยายามว่ายน้ำข้ามมหาสมุทร 7 วัน 7 คืน เพื่อไปเมืองมิถิลา นางทูลขอให้ตั้งมหาวิชชาลัยเพื่อสอนศิลปวิทยาการให้ความรู้แก่ประชาชนได้เลี้ยงชีพและดำรงชีวิตอย่างปกติสุข เมื่อพระมหาชนกทำตาม ประชาชนในปกครองของพระองค์อยู่ดีมีสุข จึงบังเกิดบรมสุขแก่พระองค์สืบไป
นอกจากนี้ ยังมีธรรมะจากต้นมะม่วงที่ไม่มีผล ซึ่งพระมหาชนกทรงตระหนักถึงสัจธรรมว่า...ต้นมะม่วงที่ไม่มีผลยังยืนต้นอยู่ได้ โดยไม่มีใครทำอันตรายเพราะมันไม่มีผลนั่นเอง จึงไม่มีใครสนใจ ต่างจากต้นมะม่วงที่มีผลหอมหวานสุกเต็มต้น ซึ่งเป็นที่ล่อตาล่อใจของมดแมลง สัตว์และคนที่หวังที่จะลิ้มรสชาติของมัน #ผลมะม่วงจึงเสมือนทรัพย์ ผู้ที่ต้องการความสงบในทางธรรมไม่ปรารถนาที่จะวุ่นวายในทางโลกจึงพึงตัด 3 สิ่ง คือ ลูก สามี/ภรรยา และทรัพย์ ซึ่งถือเป็นบ่วงสำคัญยากที่จะตัดขาดออกจากสัตว์โลก
"ความรู้" เป็นสิ่งสำคัญที่จะนำความเจริญและความสุขมาให้กับผู้คน "ความไม่รู้" นำมาซึ่งความเสียหายมากมาย มากบ้าง น้อยบ้าง กระทบถึงกันหมด เช่น ช่วงท้ายของเรื่องที่พระมหาชนกเสวยผลมะม่วงแล้วประชาชนอยากกินบ้าง แต่ไม่รู้วิธีการเก็บผลของมันที่ถูกวิธีจึงได้ช่วยกันโค่นต้นมะม่วงลงมาแล้วเก็บผลของมันกินจนเกลี้ยง โดยหารู้ไม่ว่าทำแบบนั้นจะได้กินเพียงครั้งเดียว
พระมหาชนกทราบความจึงให้ฟื้นฟูต้นมะม่วงขึ้นใหม่ ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ต่อตา ปักชำ ทาบกิ่ง สารพัดวิธี แล้วก็ทำให้ต้นที่ไม่มีผลมะม่วงมีผลด้วย แล้วท่านก็นึกถึงคำพูดของนางมณีเมขลาที่ทูลขอจากพระองค์ขณะเพียรพยายามว่ายน้ำข้ามมหาสมุทร 7 วัน 7 คืน เพื่อไปเมืองมิถิลา นางทูลขอให้ตั้งมหาวิชชาลัยเพื่อสอนศิลปวิทยาการให้ความรู้แก่ประชาชนได้เลี้ยงชีพและดำรงชีวิตอย่างปกติสุข เมื่อพระมหาชนกทำตาม ประชาชนในปกครองของพระองค์อยู่ดีมีสุข จึงบังเกิดบรมสุขแก่พระองค์สืบไป
นอกจากนี้ ยังมีธรรมะจากต้นมะม่วงที่ไม่มีผล ซึ่งพระมหาชนกทรงตระหนักถึงสัจธรรมว่า...ต้นมะม่วงที่ไม่มีผลยังยืนต้นอยู่ได้ โดยไม่มีใครทำอันตรายเพราะมันไม่มีผลนั่นเอง จึงไม่มีใครสนใจ ต่างจากต้นมะม่วงที่มีผลหอมหวานสุกเต็มต้น ซึ่งเป็นที่ล่อตาล่อใจของมดแมลง สัตว์และคนที่หวังที่จะลิ้มรสชาติของมัน #ผลมะม่วงจึงเสมือนทรัพย์ ผู้ที่ต้องการความสงบในทางธรรมไม่ปรารถนาที่จะวุ่นวายในทางโลกจึงพึงตัด 3 สิ่ง คือ ลูก สามี/ภรรยา และทรัพย์ ซึ่งถือเป็นบ่วงสำคัญยากที่จะตัดขาดออกจากสัตว์โลก
HR. Thailand Today
เมื่อ "เงินเดือน" กับ "ค่าครองชีพ" สวนทางกัน คำว่า "เงินออม" และคุณภาพชีวิตที่ดีจึงอาจเป็นเพียงความฝันของหนุ่มสาววัยทำงานยุคนี้ รัฐบาลควรปรับฐานเงินเดือนตามความเป็นจริงและควบคุมราคาสินค้ามิให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนแซงหน้าเงินเดือน #คำนวณเฉพาะคนโสด ถ้ามีครอบครัวแต่งงานมีลูกค่าใช้จ่ายอื่น ๆ คงมากกว่านี้
> ค่าใช้จ่ายรายเดือน...25,000 บาท
วานนี้ ในห้องเรียนวิเคราะห์เงินเดื อนและค่าครองชีพ ในหัวข้อ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ ได้ข้อมูลเชิงประจักษ์ ดังนี้
> เงินเดือน ป.ตรี จบใหม่ 15,000 บาท
******************************
#ค่าห้องพักรายเดือน = 3500-5000 บ.
#ค่าน้ำ+ค่าไฟ = 1000-1500 บ.
#ค่าโทรศัพท์ = 500-1000 บ.
#ค่าอินเตอร์เน็ต = 500-800 บ.
#ค่ากิน = 5000-6000 บ.
#ค่าชุดทำงาน 1 ชุด = 1500-2000
#ค่าสันทนาการกับเพื่อน = 1500 บ.
#ค่าน้ำมันรถ (มอเตอร์ไซต์/รถยนต์) = 500-2000
# ของใช้ส่วนตัว /เครื่องสำอางค์ = 2,000-5,000 บ#ค่าน้ำ+ค่าไฟ = 1000-1500 บ.
#ค่าโทรศัพท์ = 500-1000 บ.
#ค่าอินเตอร์เน็ต = 500-800 บ.
#ค่ากิน = 5000-6000 บ.
#ค่าชุดทำงาน 1 ชุด = 1500-2000
#ค่าสันทนาการกับเพื่อน = 1500 บ.
#ค่าน้ำมันรถ (มอเตอร์ไซต์/รถยนต์) = 500-2000
#ค่าภาษีสังคม (ซอง) =500-1500 บ.
ผลกระทบ..
เงินเดือนในระบบราชการที่น้อยกว่าเอกชน 2 เท่า ส่งผลต่อความเสี่ยงการทุจริตคอรัปชั่น นายลีกวนยู อดีตนายกฯ คนแรกของสิงคโปร์จึงปรับฐานเงินเดือนในระบบราชการให้เท่ากับเอกชน รวมถึงมาตรการอื่น ๆ รองรับ
สิ่งที่กระทบอีกอย่าง คือ เมื่อรายได้ไม่พอ คนทำงานจึงหาอาชีพเสริม หลายคนต้องทำงานเสาร์-อาทิตย์ ยอมแลกวันหยุดกับรายได้ที่จะมาจุนเจือครอบครัว ความอบอุ่นและกิจกรรมของครอบครัวจึงขาดหายไป
น้อง ๆ ที่รู้จักกัน เพิ่งจบใหม่ บอกว่าเขารายได้ไม่พอจ่าย ต้องหาอาชีพเสริม ขายโน้น นี้ นั้น หลายทาง ...ทำช่วงกลางคืน แล้วก็วันหยุด ...ฟังแล้วสะเทือนใจ...นึกถึงหนูที่ต้องวิ่งบนสายพานตลอดเวลา
Thailand 4.0 ตอน อยู่ยากในสังคมออนไลน์
การสื่อสาร...เมื่อเทคโนโลยีก้ าวหน้า ความลับจึงไม่มีในโลกอีกต่อไป.. .สนทนากับลูกศิษย์ในชั้นเรี ยนพบว่า...โทรศัพท์มือถือรุ่ นใหม่ที่เป็น Smart phone หน้าจอใหญ่ใช้งานได้ทุกฟังชั่น รวมถึงการโทรคุยกัน ด้วยรูปลักษณ์ที่ใหญ่อาจทำให้ ไม่สะดวกในการหยิบขึ้นมาแนบกั บหูขณะสนทนา หลายคนจึงเลือกที่จะเปิดลำโพง.. .แน่นอนว่าคู่สนทนาปลายสายมิ อาจล่วงรู้ได้เลยว่าคำพูดหรือข้ อความที่เขาแสดงความเห็นออกไปนั้ น ได้เผยแพร่เสียงสดสู่สาธารณะเป็ นที่เรียบร้อยแล้ว หากคุยเรื่องความลับ/ความมั่นคง ทั้งความมั่ นคงของตนเองและความมั่ นคงของชาติ ....ย่อมไม่เป็นความลับอีกต่อไป บางกรณีก็มีการแอบบันทึกเสี ยงขณะสนทนา (โอ้ว...อะไรจะซับซ้อนปานนั้น แต่เคยมีในรายการที่จับผิ ดคนบางประเภท)
อีกกรณี...การสนทนาทาง inbox หรือ ไลน์ ในโปรแกรมที่ลงในเครื่อง pc ที่ใช้งานร่วมกับผู้อื่น เช่น ในสำนักงาน ที่คนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้คอมฯ ที่โต๊ะได้ทุกเมื่อ หากสนทนาผ่าน app ที่ว่าข้อความเด้งขึ้นมา ปรากฏหราบนหน้าจอ แต่เป้าหมายกลับมิใช่คนที่เราต้ องการสนทนาด้วย (เป็นใครก็มิรู้) บางทีอาจปลอมตัวสนทนากับเราเพื่ อล้วงความลับระดับชาติ ระดับโลกก็มี จึงมีกรณีไลน์ของดารา และบุคคลสำคัญ หลุดออกมาสู่สาธารณะ อันนี้ยังไม่นับไลน์ /Facebook/email ปลอมนะคะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)