วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Endeavour Scholarships and Fellowships 2015

สรุปโดย ประทุมทิพย์ ทองเจริญ
จากการฟังการ PR ทุนโครงการ Endeavour Scholarships and Fellowships
โดยคุณวาทินี ขานวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษา สถานทูตออสเตรเลีย
เมื่อวันที่ 26 กพ.2557 
ณ ห้อง 408 อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ม.มหิดล ศาลายา
  
1.Endeavour Scholarships and Fellowships เป็นทุนของรัฐบาล Australia
  (Endeavour = ความพยายาม / ตั้งใจจริง)

2.เป็นทุนน้องใหม่เพิ่งก่อตั้งอายุ 7-8 ปี ภายใต้ร่มใหญ่ คือ ทุนรัฐบาลออสเตรเลีย (Australia awards)

3.ข้อมูลทั่วไปของออสเตรเลีย
        # มีสัญลักษณ์ คือ จิงโจ้ กับ นกอีมู หมายถึง การก้าวกระโดดไปข้างหน้า พัฒนาไปเรื่อยๆไม่หยุดนิ่ง บางคนเข้าใจผิดว่าเป็นจิงโจ้กับโคล่า เหตุผลที่ไม่ใช้โคล่าเพราะวันๆโคล่าเอาแต่กินกับนอน (นอนราว 18-20 ชม. ตื่นขึ้นมาก็กิน 3-4 ชม. แล้วก็นอนต่อ) มิได้แสดงถึงการพัฒนาตนเองอย่างใด จึงมิได้นำมาเป็นสัญลักษณ์
        # เมืองหลวง คือ  Canberra เป็นเมืองเงียบๆ คล้าย Washington DC. เต็มไปด้วยสถานที่ราชการ หลายคนเข้าใจผิดว่าเมืองหลวง คือ Sydney
        # การเดินทางโดยเครื่องบินจากไทยไปออสเตรเลีย ราว 6-9 ชม.การติดต่อสะดวกผ่านทางโทรศัพท์ และ Internet
        # มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียมี 39 แห่ง กล่าวคือ 37 แห่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ อีก 2 แห่งเป็นวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเอกชน
        # สถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งในออสเตรเลียมีมาตรฐานการเรียนการสอนเหมือนกัน จึงไม่มีการทำ Ranking เนื่องจากแต่ละแห่งจะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน แต่จะมี AQUA เป็นหน่วยงานในการตรวจสอบ ประเมินคุณภาพของสถาบันอุดมศึกษาทุกๆ 5 ปี แล้วตีพิมพ์ออกมาเผยแพร่ว่าแต่ละแห่งมีคุณภาพเป็นอย่างไร ต้องปรับปรุงพัฒนาตนเองอย่างไรเพื่อรักษามาตรฐาน

4.ทุนนี้มี 3 ประเภท คือ
   4.1 สำหรับนักศึกษาปริญญาโท (ปีครึ่ง-2 ปี) และ ปริญญาเอก (4 ปี)
   4.2 สำหรับนักวิจัย ระยะสั้น 4-6 เดือน (นศ.ป.โท เอก ที่ต้องการไปทำวิจัยก็สามารถขอได้)
   4.3 สำหรับผู้ต้องการไปศึกษาดูงานระยะสั้น 1-4 เดือน เช่น คนทำงานในหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการพัฒนาตนเองในสายงานของตน จึงต้องการไปดูงานตำแหน่งเดียวกันที่ประเทศออสเตรเลียเพื่อแลกเปลี่ยนซึ่งกัน ที่ผ่านมาเคยมีรองอธิการบดี รองคณบดี ขอทุนเพื่อไปดูงานในตำแหน่งเดียวกันว่าบุคคลในตำแหน่งนี้ในประเทศออสเตรเลียเขาทำงานอย่างไร มีอะไรที่น่าจะเอามาปรับใช้กับมาตรฐานการทำงานของตนเองได้บ้าง เป็นต้น

หมายเหตุ: ผู้สมัครทุนประเภทวิจัย กับ ทุนศึกษาดูงาน ควรเขียนในใบสมัครโดยแยกวัตถุประสงค์ที่จะไปให้ชัดเจน อย่าเขียนแบบคลุมเครือ หรือ สับสน เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาทุนด้วย

5.ที่ผ่านมาในรอบ 7-8 ปีมานี้ มีคนไทยได้รับทุนนี้ ราว 136 คน เฉลี่ยปีละ 15-25 คน ขณะที่บางประเทศ อาทิ เวียดนาม อินเดีย มีคนได้ทุนนี้เฉลี่ยปีละ 80-90 คนขึ้นไป ทั้งนี้ ทุนดังกล่าวไม่มีโควต้าให้ ขึ้นกับ "คุณภาพ" และ "คุณสมบัติ" ของผู้สมัคร โดยปกติแล้วเขาจะสนับสนุนหัวกะทิ (cream of cream)ด้านต่างๆ เพื่อไปพัฒนาตนเองในด้านต่างๆต่อเนื่อง ปีที่แล้วมีนศ.และบุคลากรจาก ม.มหิดล ได้รับทุนนี้ จำนวน 3 คน เมื่อกลับมาแล้ว สถานทูตจะจัดงานเลี้ยงฉลองและมอบโล่พร้อมประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ได้รับทุนเพื่อเป็นเกียรติประวัติ

6. หลักเกณฑ์การให้ทุน
     6.1 ทุนนี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง พูดง่ายๆ คือ ไปแบบไม่ลำบาก กล่าวคือ ขณะที่ทุนอื่นๆ จะให้ค่าใช้จ่ายรายเดือน ราว 1,000-1,500 USD (ประมาณ 30,000 บาท) แต่สำหรับ Endeavour Scholarships จะให้ค่าใช้จ่ายรายเดือน 2,500 USD (2,500x30 บาท = 75,000 บาท/เดือน)บางคนพาครอบครัวไปด้วย บางคนมีเงินเก็บกลับมาดาวน์รถได้ด้วย แต่ถ้าใครที่ได้ทุนแล้วอยากทำงานด้วย ทุนนี้ก็สนับสนุนให้ทำงานได้ตามความต้องการ แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีใครทำเพราะเบี้ยเลี้ยงสูงอยู่แล้ว อยู่แบบไม่ลำบาก
   6.2 ไม่จำกัดอายุ
   6.3 ไม่ต้องกลับมาใช้ทุน
   6.4 คนที่ได้ทุนอื่นอยู่แล้วก็ขอได้ แต่ให้คุยกับเจ้าของทุนที่ได้ก่อนหน้านี้ด้วยว่าเขามีเงื่อนไขอย่างไร หากรับทุนนี้ด้วย
   6.5 การยกเว้นผลคะแนนภาษาอังกฤษ สำหรับคนที่จบปริญญาเอกแล้ว หรือ ผู้ที่เคยไปศึกษา /ที่สหราชอาณาจักร หรือประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นทางการช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่เกิน 10 ปี สามารถยกเว้นผลคะแนนภาษาอังกฤษได้
   6.6 ทุนประเภทนี้ ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องจบปริญญาตรี จบม.6 ก็ขอได้ หากมีเจตจำนงค์ที่จะพัฒนางานของตนเองที่แน่วแน่ ชัดเจน ชื่อทุนก็บอกแล้วว่าพิจารณาจากความพยายามและความตั้งใจจริงของผู้สมัคร ถ้ามีสิ่งนี้แล้วกอรปกับคุณสมบัติและใบสมัครที่น่าสนใจ โอกาสที่จะได้ทุนย่อมเป็นไปได้เสมอ
   6.7 สำหรับทุนศึกษาดูงาน ผู้สมัครต้องมีประสบการณ์การทำงานอย่างน้อย 5 ปี

7.เอกสารหลักฐานที่ใช้สมัคร
   7.1 หน้า passport / บัตรประชาชน (ID Card)
   7.2 Transcripts ป.ตรี โท เอก (ขึ้นกับทุนที่สมัคร)
   7.3 ป.ตรีต้องมีผลการเรียนระดับดีเลิศ (Top 5 ของชั้นเรียน)
   7.4 ผลคะแนน IELTS 6.5 ขึ้นไป TOEFL IBT 90 ขึ้นไป (ถ้าไปเรียนกับสถาบันภาษา อาทิ British Counsil จะได้เทคนิคการทำข้อสอบมามากมาย และคะแนนจะดีขึ้นรวดเร็ว ค่าเรียนระยะสั้น 1-2 เดือน ราว 12,000-15,000 บาท) บางคนได้คะแนน IELTS 6 แต่คุณสมบัติอื่นดีเยี่ยม ผู้ให้ทุนก็อาจพิจารณา อย่าท้อถอยลองใช้ความพยายามให้ถึงที่สุดก่อน
   7.5 หนังสือรับรองจากสถาบันอุดมศึกษาออสเตรเลียที่จะไป มี 2 แบบ
         # letter of Offer สำหรับทุนประเภทแรก ควรเป็นแบบ Unconditional Offer ไม่มีเงื่อนไข บางคนเป็นแบบมีเงื่อนไข อาทิ ต้องไปเรียนภาษาก่อน ก็จะได้ Conditional Offer
         # Acceptance letter สำหรับทุนประเภทวิจัย และศึกษาดูงาน
   7.6 บุคคลอ้างอิง 3 คน กล่าวคือ เราให้ชื่อ และ email ของบุคคลอ้างอิง ทางเจ้าหน้าที่จะส่งแบบฟอร์มไปให้บุคคลอ้างอิงกรอกทาง email แล้วส่งไปให้ทางเจ้าหน้าที่โดยตรง โดยที่ไม่ผ่านทางผู้สมัครทุน ประเด็นนี้ ควรเลือกบุคคลอ้างอิงที่หลากหลาย อาทิ 2 คนจากสถาบันการศึกษาที่สังกัด และอีก 1 คนมาจากหน่วยงานอื่นๆที่เขารู้จักผู้สมัครดีพอ
   7.7 ใบประกาศนียบัตรที่ผ่านการอบรม หรือ วุฒิบัตรต่างๆ ที่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยน /ประสบการณ์ต่างแดน หรือ การอบรมเพื่อพัฒนางานในวิชาชีพของตน อบรมภาษาอังกฤษ เกียรติบัตรยกย่อง  การช่วยเหลือสังคม ฯลฯ

8. ภาษาที่ใช้ในการกรอกใบสมัคร เป็นภาษาสำนวนการเขียนของผู้สมัครเอง ไม่จำเป็นต้องสวยหรูมากมาย ขอให้อ่านเข้าใจ รู้เรื่องว่าจะไปทำอะไร กลับมาแล้วจะได้อะไรในการพัฒนาตนเอง และพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับออสเตรเลียได้อย่างไร

9.การสมัคร สมัครผ่านออนไลน์ ทางเวบไซต์ http://education.gov.au/australia-awards-endeavour-scholarships-and-fellowships จะเปิดรับสมัครช่วง เมษายน-มิถุนายน 2014 ประกาศผล พฤศจิกายน 2014 และผู้ที่ได้รับทุนจะต้องเดินทางไปออสเตรเลีย ตั้งแต่ 1 มค 2015 เป็นต้นไป จนถึง 30 พฤศจิกายน 2015 การพิจารณาทุนจะพิจารณาโดยเจ้าหน้าที่ที่มีความโปร่งใส และยุติธรรม เขาจะไม่รู้จักว่าเราเป็นใครมาก่อน พิจารณาจากเอกสารและหลักฐานการสมัครเป็นสำคัญ

  

1 ความคิดเห็น: