ประทุมทิพย์ ทองเจริญ
The Japan International Cooperation Agency (JICA) เป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น
ซึ่งมุ่งเน้นภารกิจในการพัฒนามนุษยชาติให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
โดยเฉพาะประเทศที่ยากจน ด้วยการสนับสนุนเทคโนโลยี ผู้เชี่ยวชาญ
และความร่วมมือด้านการวิจัยกับองค์กรต่างๆทั่วโลก (ยุโรป เอเชีย
ตะวันออกกลาง แอฟริกา
โอเชียเนีย ลาตินอเมริกา)
ซึ่งที่เน้นเป็นพิเศษ ก็คือ กลุ่มประเทศในแถบเอเชีย ได้แก่ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(SEA
: Southeast Asia) และกลุ่มประเทศอาเซียน (ASEAN) ทั้งกลุ่มประเทศสมาชิกเดิม 6 ประเทศ
และประเทศสมาชิกใหม่ในอาเซียน หรือ CLMV (Cambodia / Laos / Myanmar / Vietnam) โดยเฉพาะการสนับสนุนในหลากหลายสาขาทางด้านวิศวกรรม (Engineering) ได้แก่ วิศวกรรมเคมี (Chemical) วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
(Environment) วิศวกรรมการผลิต (Manufacturing) วัสดุวิศวกรรม (Material) วิศวกรรมโยธา (Civil)
วิศวกรรมไฟฟ้า (Electric & Electronic) วิศวกรรมข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ
(ICT) วิศวกรรมเครื่องกลและอากาศยาน และวิศวกรรมธรณี (geological) ร่วมกับสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา (Higher Education) ซึ่งหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการประสานเชื่อมโยงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยของภูมิภาค
คือ AUN (ASEAN University Network) และ SEED-Net (Southeast Asia Engineering Education
Development Network)
ร่วมกับมหาวิทยาลัยในอาเซียน 19 แห่ง
และมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น 11 แห่ง
ซึ่งในอนาคตการพัฒนาการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของกลุ่มประเทศที่กล่าวมา คือ
การพัฒนาโปรแกรมปริญญาโทและปริญญาเอกให้มีความเป็นสากลในภูมิภาคเดียวกันมากขึ้น
จากการศึกษาดูงานที่ JICA ในครั้งนี้ ทำให้คณะนักศึกษาได้รับข้อคิดที่เป็นประโยชน์และนำไปสู่การประยุกต์ใช้กับบริบทของประเทศไทยดังนี้
1) สำหรับประเทศไทยควรมีองค์กรกลางที่ทำหน้าที่ในการประสานงานระหว่างองค์กร เนื่องจากในทางปฏิบัติพบว่าบริบทของสังคมไทยส่วนใหญ่เป็นการทำงานแบบแยกส่วน ขาดการประสานงานเชื่อมโยงที่ดีระหว่างหน่วยงานกับหน่วยงาน อาทิ การขุดเจาะถนนเพื่อวางท่อของเทศบาล การประปา การไฟฟ้า เพื่อทำโครงการอะไรบางอย่าง บนถนนสายเดียวกัน แต่ทำกันคนละครั้ง ภายในเวลาใกล้เคียงกัน ด้วยเหตุผลที่ว่าใช้งบประมาณคนละหน่วยงาน ซึ่งในสายตาของประชาชน ต้องการให้มีการพูดคุยกันของหน่วยงาน วางแผนร่วมกัน เป็นการประหยัดงบประมาณ ประหยัดเวลา และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ดังนั้น การมีองค์กรกลางซึ่งทำหน้าที่ประสานงานเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างองค์กรจึงเป็นความคิดที่ดีในการพัฒนาและต่อยอดการทำงานในภาพใหญ่ระดับประเทศ ภูมิภาค และระดับโลกให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น
2) ทำให้เกิดแนวคิดต่อการนำประเด็นมาสู่การพัฒนานโยบายทางด้านการศึกษาของประเทศไทย กล่าวคือ ในการสร้างสังคมฐานความรู้ให้เกิดขึ้นสำหรับการสนับสนุนการพัฒนาประเทศ สิ่งที่ต้องทำ คือ กระทรวงศึกษาธิการของไทยควรมีนโยบายที่ชัดเจนต่อการสนับสนุนการสร้างเครือข่ายมหาวิทยาลัยในประเทศในการสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาความรู้ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และเทคโนโลยีร่วมกัน โดยสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยต่างๆ มีการแลกเปลี่ยนบุคลาการทางวิชาการ ชี้แนะประเด็นที่มีความจำเป็นต่อการทำวิจัยร่วมกันในลักษณะเครือข่ายทางวิชาการ
ตอนนี้จะติดตามทุน หรือการไปศึกษาดูงานของ JICA ได้ที่ไหนบ้างคะ ขอบคุณค่ะ
ตอบลบเรื่องทุนของ JICA ส่วนใหญ่จะให้มาทางสถาบันค่ะ เช่น สถาบันการศึกษา หรือหน่วยงานทางด้านเทคโนโลยี และภัยพิบัติ เพราะเขามีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้หลายคน ส่วนการไปศึกษาดูงานจะต้องทำหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังหน่วยงาน JICA โดยระบุว่าเป็นใคร สังกัดหน่วยงานไหน จะไปศึกษาเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ไปกี่วัน เป็นต้นค่ะ ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เวบไซต์นะคะ http://www.jica.go.jp/english/
ลบเรื่องทุนของ JICA ส่วนใหญ่จะให้มาทางสถาบันค่ะ เช่น สถาบันการศึกษา หรือหน่วยงานทางด้านเทคโนโลยี และภัยพิบัติ เพราะเขามีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้หลายคน ส่วนการไปศึกษาดูงานจะต้องทำหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังหน่วยงาน JICA โดยระบุว่าเป็นใคร สังกัดหน่วยงานไหน จะไปศึกษาเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ไปกี่วัน เป็นต้นค่ะ ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เวบไซต์นะคะ http://www.jica.go.jp/english/
ตอบลบ